สิ่งที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้ามเรื่อง ประเมินสุขภาพทางการเงิน ของตนเองในปีที่ผ่านมาว่าดีหรือไม่

     หลายคนอาจจะรู้คร่าวๆ โดยไม่ต้องประเมินด้วยซ้ำว่าการเงินของตนเป็นเช่นไรในปีที่ผ่านมา แต่การ ประเมินสุขภาพทางการเงิน จะทำให้เราทราบจุดอ่อนและจุดแข็งเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างละเอียด  และที่สำคัญคือสามารถวางแผนการเงินในปีนี้ให้ดีกว่าปีที่แล้วได้

ประเมินสุขภาพทางการเงิน รายรับรายจ่ายในแต่ละปีที่เราใช้เงินไปจำนวนเท่าไหร่

การประเมินสุขภาพทางการเงินจากรายจ่ายที่ไม่น่ารัก

     รายจ่ายที่ไม่น่ารักก็คือรายจ่ายที่ไม่จำเป็น  แต่เรากลับให้ความสำคัญและทำประหนึ่งว่ามีความจำเป็นต่อชีวิตอย่างเหลือเกิน  ให้พิจารณาว่าคุณหมดไปกับรายจ่ายเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน  ได้แก่

–  ค่าชอปปิ้งสิ่งไม่จำเป็น  เช่น  แก็จเจ็ตไฮเทค  อุปกรณ์แต่งรถ  ของตกแต่งบ้าน  เครื่องประดับ  เครื่องสำอาง

–  ค่าเติมเกม

–  ค่าอาหารนอกบ้านโดยเฉพาะมื้อเย็นชุดใหญ่  หรือการกินเลี้ยงสังสรรค์ซึ่งแพงกว่าการทำอาหารกินเองที่บ้าน

–  ค่าซื้อของลดราคาซึ่งหลายคนมองข้ามคิดว่าเป็นการประหยัด  ซึ่งคำว่าประหยัดเป็นการใช้เงินในสิ่งจำเป็นที่คุ้มค่า  ไม่ใช่การนำเงินไปซื้อของไม่จำเป็นราคาถูก  ที่เอามากองไว้ให้หยากไย่ขึ้นอย่างไร้ค่า…

–  ค่าเดินทางท่องเที่ยวที่ช่วยผ่อนคลายทำให้สุขภาพจิตแข็งแรงแต่สุขภาพทางการเงินอ่อนแอลง

–  ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ซ่อมแล้วซ่อมอีกอยู่นั่นล่ะ  เช่น  รถยนต์  จักรยาน  เครื่องใช้ไฟฟ้า  ซึ่งบางคนลืมนึกไปว่าอาจไม่จำเป็น  ไม่ต้องซ่อมก็ได้  หรือซื้อใหม่จ่ายน้อยกว่า… 

ประเมินสุขภาพทางการเงินจากงบแสดงฐานะการเงิน

     งบแสดงฐานะการเงินที่ว่านี้จริงๆ แล้วใช้กับกิจการร้านค้า  แต่เราสามารถประยุกต์มาใช้กับการเงินในครอบครัวได้  เพื่อเป็นรายงานสั้นๆ แสดงสุขภาพทางการเงินของครอบครัวว่าเป็นเช่นไร  หากไม่สู้ดีจะได้เรียกประชุมสมาชิกแล้วช่วยกันหาทางออกครับ

     ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้เราสามารถลงลึกในรายละเอียดหรือต้นตอของปัญหาสุขภาพทางการเงิน เศรษฐกิจการเงิน   อีกทั้งยังสร้างความสามัคคีในเรื่องเงินๆ ทองๆ ของครอบครัว  และต้องยอมรับว่าหมดยุคแล้วที่หัวหน้าครอบครัวหรือคนเป็นพ่อแม่จะต้องปิดบังฐานะทางการเงินที่ไม่สู้ดีกับลูกๆ… 

     เริ่มด้วยการหากระดาษเปล่ามาสักแผ่น  แล้วลงมือแจกแจงรายละเอียดของแต่ละหัวข้อเหล่านี้ลงไป  ได้แก่

1.  สินทรัพย์หมุนเวียน  เช่น  เงินสด  เงินฝากออมทรัพย์  (จากนั้นรวมทั้งหมด)

2.  สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน  เช่น  สลากออมสิน  กองทุน  ที่ดิน  (จากนั้นรวมทั้งหมด)

3.  หนี้สินหมุนเวียน  เช่น  ค่าผ่อนรถ  ค่าบัตรเครดิต  (จากนั้นรวมทั้งหมด)

4.  หนี้สินไม่หมุนเวียน  เช่น  กู้สหกรณ์  กู้ กยศ.  สินเชื่อ  (จากนั้นรวมทั้งหมด) หนี้นอกระบบ ที่ไม่คุ้มจะเสี่ยง บางครั้งไม่มีการทำสัญญา

ขอแนะนำอีกหนึ่งช่องทางสำหรับนักลงทุนมือใหม่มาให้ลองลงทุนกัน Joker สล็อต777  ที่สามารถสร้างรายได้แบบง่าย ๆ